คดีตัวอย่าง (Case Study)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่วินิจฉัยว่า   ไม่เป็นความผิดตาม พรบ. ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค

1.        ออกเช็คแลกเงินสด

2.        ขายลดเช็ค

3.        ขอยืมเงินแล้วออกเช็คให้ไว้

4.        ออกเช็คชำระหนี้เงินกู้ซึ่งการกู้ยืมเงินไม่มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๕๓

5.        ขณะออกเช็คยังไม่มีหลักฐานการกู้ยืมเป็นหนังสือ แม้ภายหลังจะมีการทำหนังสือสัญญากู้เงิน ก็เป็นการออกเช็คที่ไม่อาจบังคับได้ตามกฎหมาย

6.        ออกเช็คชำระหนี้ซื้อขายสังหาริมทรัพย์ที่มีราคากว่า ๕๐๐ บาท ขึ้นไป โดยไม่มีหลักฐานตาม ป.พ.พ. มาตรา ๔๕๖ วรรคสองและวรรคสาม

7.        ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินโดยให้เหตุผลว่า “เช็คพ้นกำหนดการจ่ายเงิน”

8.        นำเช็คเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คก่อนวันที่ลงในเช็ค

9.        ในวันที่ส่งจ่ายตามเช็ค ผู้สั่งจ่ายมีเงินในบัญชีเพียงพอที่จะจ่ายเงินตามเช็ค แต่ผู้ทรงกลับนำเช็คไปขึ้นเงินหลังวันที่สั่งจ่าย

10.     เช็คไม่ลงวันที่

11.     ออกเช็คโดยไม่ลงวันที่ออกเช็ค แม้จะได้ตกลงกำหนดวันที่ผู้ทรงจะลงในเช็คไว้ต่อกัน ผู้ทรงลงวันตามที่ตกลงกัน ก็หาเป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คไม่

12.     ออกเช็คไม่ลงวันที่ แม้ผู้ทรงจะลงวันที่ในเช็คตามผู้สั่งจ่ายและภริยาบอกให้ลงหรือผู้สั่งจ่ายบอกให้บุตรสาวลงวันที่ในเช็คหรือมอบหมายให้บุคคลอื่นลงวันที่ในเช็ค หรือแม้ผู้ทรงจะลงวันที่ในเช็คต่อหน้าผู้สั่งจ่ายเช็ค ก็หาผลเป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คไม่

13.     ออกเช็คไม่ลงวันที่ แม้ผู้สั่งจ่ายจะลงลายมือชื่อกำกับไว้ใต้ช่องว่างสำหรับลงวันที่ออกเช็ค เพื่อให้ผู้ทรงเช็คลงวันตามที่ถูกต้องแท้จริงได้เอง ก็หามีผลทำให้เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คแต่อย่างใดไม่

14.     ออกเช็คไม่ลงวันที่ แม้ต่อมาผู้ออกเช็คจะเป็นผู้ลงวันที่สั่งจ่ายในเช็คเอง ก็หามีผลเป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คไม่

15.     ผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คยินยอมให้ผู้รับเช็คกรอกจำนวนเงินและวันเดือนปีที่ออกเช็คลงในหน้าเช็คต่อหน้าในทันทีที่รับมอบเช็ค เป็นการออกเช็คที่สมบูรณ์ มิใช่เช็คไม่ได้ลงวันเดือนปีที่ออกเช็ค

16.     ออกเช็คชำระหนี้อันเกิดจากการพนัน

17.     ออกเช็คโดยมูลหนี้จากเงินค่าขายสลากกินรวบ

18.     ออกเช็คชำระหนี้อันเป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. ๒๔๗โดยมูลหนี้จากเงินค่าขายสลากกินรวบ

19.     เช็คไม่มีมูลหนี้หรือมูลหนี้ตามเช็คเป็นโมฆะ

20.     ออกเช็คเพื่อประกันหนี้

21.     ออกเช็คโดยขณะที่ออก ผู้ทรงทราบถึงฐานะทางการเงินของผู้สั่งจ่ายว่าไม่มีความสามารถชำระเงินตามเช็คได้

22.     ห้ามธนาคารมิให้ใช้เงินตามเช็คโดยไม่มีเจตนาทุจริต

23.     มูลหนี้ที่ออกเช็คระงับสิ้นไป ผู้รับเช็คบอกผู้สั่งจ่ายว่าฉีกเช็คทิ้งไปแล้ว ไม่ได้โอนให้แก่ผู้ใด ผู้สั่งจ่ายเช็คจึงไม่นำเงินเข้าบัญชีถือว่าไม่มีเจตนาที่ไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค

24.     แก้วันที่สั่งจ่ายเช็คโดยผู้ออกเช็คมิได้ยินยอม

25.     ยอมรับเช็คที่บุคคลภายนอกสั่งจ่ายแทนเช็คเดิม โดยมีข้อตกลงไม่ให้นำเช็คเดิมไปเรียกเก็บเงินเป็นการแปลงหนี้ใหม่ด้วยเปลี่ยนตัวลูกหนี้ แม้ต่อมาผู้ทรงเช็คนำเช็คเดิมไปเรียกเก็บเงิน และธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน ผู้สั่งจ่ายเช็คเดิมก็ไม่มีความผิด

26.     เช็คถูกแก้จำนวนเงิน

27.     นำเช็คไปเรียกเก็บเงินก่อนระยะเวลาที่ตกลงกัน

28.     ออกเช็คโดยมีข้อตกลงกันว่าจะไม่ดำเนินคดีอาญาหรือจะไม่นำไปขึ้นเงินหรือนำไปฟ้องร้องใด ๆ ทั้งสิ้น

29.     นำเช็คไปเรียกเก็บเงินโดยผิดไปจากเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้

30.     ออกเช็คเพื่อประกันหนี้ผู้อื่น

31.     ยอมรับเช็คที่บุคคลอื่นสั่งจ่ายแทนเช็คฉบับเดิมและได้มีการดำเนินคดีอาญาตามเช็คฉบับใหม่แล้ว เป็นการสละสิทธิใด ๆ ที่มีอยู่ในเช็คเดิมอีกต่อไป รวมทั้งสิทธิใด ๆ ที่มีอยู่ในเช็คเดิมอีกต่อไป รวมทั้งสิทธิที่จะดำเนินคดีอาญาด้วย

32.     ออกเช็คชำระหนี้ค่าสินค้า ผู้ขายยังส่งสินค้าให้ไม่ครบ แม้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน อ้างว่าบัญชีปิดแล้วผู้สั่งจ่ายเช็คก็ไม่มีความผิด

33.     ออกเช็คโดยไม่เป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ แม้จะมีการโอนเช็คให้แก่ผู้อื่นก็ไม่ทำให้การออกเช็คซึ่งไม่ผิดกฎหมายกลับกลายเป็นผิดกฎหมายขึ้นอีก

34.     ออกเช็คชำระหนี้ที่ไม่อาจบังคับได้ตามกฎหมายระคนอยู่ในจำนวนหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย

35.     ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ซึ่งมูลหนี้ตามเช็คเกิดขึ้นหลังจากที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว

36.     ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คแล้ว ผู้สั่งจ่ายใช้เช็คฉบับเดิมมาแก้ไขเปลี่ยนแปลงวันสั่งจ่ายใหม่แล้วมอบให้ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้ แม้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินอีกก็ไม่ทำให้เกิดการกระทำผิดขึ้นใหม่

37.     มูลหนี้ที่ก่อให้มีการทำสัญญา ยังไม่มีหนี้ที่จะต้องชำระ

38.     นายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์เรียกร้องหนี้สิน การเล่นแชร์จากสมาชิกวงแชร์

39.     เช็คไม่สมบูรณ์เพราะขาดรายการตามที่กฎหมายบังคับ

40.     ทรัพย์สินที่ซื้อชำรุดบกพร่อง ผู้ซื้อชอบที่จะยึดหน่วงราคาที่ยังไม่ได้ชำระ การไม่นำเงินเข้าบัญชีชำระหนี้ตามเช็ค จึงไม่มีความผิด

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่วินิจฉัยว่า  มีความผิดตาม พรบ. ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค

1.        ออกเช็คโดยไม่ระบุชื่อหรือยี่ห้อของผู้รับเงินและขีดฆ่าคำว่าผู้ถือออก

2.        ออกเช็คโดยไม่ประทับตราตามที่ตกลงกันไว้กับธนาคาร

3.        ออกเช็คโดยเซ็นชื่อและนามสกุลไม่ตรงกับตัวอย่างที่ให้ไว้กับธนาคาร

4.        ออกเช็คโดยใช้เช็คของผู้อื่นและลงลายชื่อผู้อื่นเป็นผู้สั่งจ่ายเช็ค

5.        ผู้ออกเช็คไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของบัญชี

6.        ออกเช็คโดยในขณะที่ออกบัญชีปิดแล้ว

7.        มอบให้ผู้อื่นเขียนชื่อตนเองในช่องผู้สั่งจ่ายเช็ค

8.        ออกเช็คใหม่แทนเช็คฉบับเดิมที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินโดยมิได้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีตามเช็คฉบับเดิม และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คฉบับใหม่อีก

9.        ขณะออกเช็คและขณะที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คผู้ออกเช็คยังคงมีหน้าที่ต้องชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญา เช็คจึงมีมูลหนี้ผูกพันกันตามกฎหมาย แม้ต่อมาสัญญาเช่าซื้อเลิกกันก็หาทำให้ความผิดที่เกิดขึ้นและระงับไปไม่

10.     ออกเช็คโดยภริยาของผู้ออกเช็คเป็นผู้กรอกวัน เดือน ปี และจำนวนเงินในเช็คด้วยความยินยอมเห็นชอบของผู้ออกเช็ค

11.     ออกเช็คชำระหนี้ค่าชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย แม้ผู้รับเช็คจะโอนเช็คให้แก่ผู้อื่น โดยการนำไปแลกเงินสดก็เป็นเรื่องระหว่างผู้โอนเช็คกับผู้รับโอนไม่ทำให้ผู้ออเช็คพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิด

12.     หนี้เดิมเป็นหนี้ที่ต้องรับผิดตามเช็ค ต่อมาได้ทำสัญญากู้เงินกันแทน แม้ในวันทำสัญญากู้เงินผู้กู้ได้สั่งจ่ายเช็คโดยลงวันที่สั่งจ่ายตรงกับวันที่ครบกำหนดชำระเงินตามสัญญากู้เงิน ถือว่าเป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีมีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย

13.     ออกเช็คชำระหนี้เงินที่กู้ยืมให้ผู้กู้ในวันที่ทำสัญญากู้ยืมเงินโดยลงวันที่สั่งจ่ายในเช็คตรงกับวันที่ครบกำหนดชำระเงินตามสัญญากู้ยืมเงิน ถือว่าเป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริง

14.     ออกเช็คชำระหนี้ค่ามัดจำตามสัญญาจะซื้อบ้านพร้อมที่ดินซึ่งเป็นสินสมรสระหว่างสามีภริยา แม้ทำสัญญากับฝ่ายหญิงโดยฝ่ายชายลงชื่อเป็นพยานการออกเช็คชำระหนี้ค่ามัดจำตามสัญญาให้แก่ฝ่ายชาย ถือเป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหม

15.     ออกเช็คและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คก่อนถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด

16.     ออกเช็คเพื่อแลกเปลี่ยนเช็คฉบับเดิมที่เป็นเช็คแลกเงินสดซึ่งธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เช็คที่ออกในภายหลังนี้ย่อมถือว่าเป็นเช็คที่ออกเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย

17.     ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและเพื่อบังคับได้ตามกฎหมายแม้หลังจากนั้นจะได้ทำหนังสือสัญญากู้เงินและค้ำประกันก็เพื่อให้มีหลักฐานมั่นคงยิ่งขึ้นเท่านั้น กรณีมิใช่ขณะออกเช็คยังไม่มีหนี้ต่อกัน

18.     ออกเช็คชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงิน แม้สัญญากู้ยืมเงินจะปิดอากรแสตมป์ไม่ครบถ้วนตามประมวลรัษฎากร

19.     ออกเช็คเพื่อเป็นการวางมัดจำ แม้เช็คลงวันที่หลังจากวันทำสัญญา เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ก็อาจเป็นความผิดได้

20.     ผู้จัดการมรดกขายทรัพย์มรดกได้แล้วจึงออกเช็คสั่งจ่ายเงินส่วนแบ่งล่วงหน้าให้แก่ทายาทตามที่ตกลงกัน ถือว่ามีหนี้ที่จะต้องชำระแล้ว

21.     ออกเช็คเพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืม แต่เช็คที่ออกมิได้รวมดอกเบี้ยเกินอัตราจากที่กฎหมายกำหนดเข้าไว้ด้วย